นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
สำหรับผู้สมัครงานเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเพื่อฝึกงาน และผู้ฝึกงาน
โรงพยาบาลเดอะซีพลัสสมุทรปราการ (ในที่นี้เรียกว่า “เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเพื่อฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
นิยาม
“โรงพยาบาล” หมายถึง โรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ
“ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน” หมายถึง ผู้สมัครที่ประสงค์จะเป็นพนักงานของโรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ
“ผู้สมัครเพื่อฝึกงาน” หมายถึง ผู้สมัครที่ประสงค์จะเข้าฝึกงานเป็นการชั่วคราวที่โรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ
“ผู้ฝึกงาน” หมายถึง ผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างการฝึกปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวในโรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของนิติบุคคล และผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ แต่มีความละเอียดอ่อน และอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมได้ เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง โรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ
วิธีการได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก
- ผู้สมัครหรือผู้ฝึกงานโดยตรง ตามข้อมูลในใบสมัคร ประวัติย่อ (Resume) การสนทนา หรือการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าว อาจรวมถึงข้อมูลทั่วไป ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลคุณสมบัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์การฝึกอบรม หรือทักษะอื่นๆ
- บุคคลอ้างอิงที่ผู้สมัคร หรือผู้ฝึกงานระบุไว้ให้สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่านได้
- ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสุขภาพผู้สมัคร ซึ่งได้แสดงเจตนายินยอมโดยชัดแจ้ง ให้เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยแล้ว
- ข้อมูลด้านทักษะและพฤติกรรม ที่ได้จากการสังเกตและวิเคราะห์ของเราในระหว่างที่ท่านฝึกงานอยู่
วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวม ใช้ และอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านในการสมัครงานกับเรา เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างเป็นพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากการฝึกงาน
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น เช่น วิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุงกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน การประเมินการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน การจัดทำสัญญาฝึกงานหรือสัญญาจ้างงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
- เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่เรา
6. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครเข้าทำงานหรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่าน แก่โรงพยาบาลในเครือ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
- ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร ดังนี้
- ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่เรา เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง เลขที่บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หมู่เลือด สัญชาติ ศาสนา สถานการณ์สมรส
- ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address) หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย
- ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมู่โลหิต การศึกษา ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
- ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ในความดูแลของท่าน
- รูปถ่าย
- ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่นๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่เรา
- ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ
- ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร
- ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ สำหรับบางตำแหน่งงาน
- รายละเอียดของบุคคลที่อ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่เราสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
- ข้อมูลจากการทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกต และวิเคราะห์ของเราในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมฝึกงานกับเรา
- ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน
- เอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น สำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนออกให้ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร ใบแสดงผลการเรียน
- ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือกพนักงานหรือนักศึกษาฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของเราและการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ
- สำหรับผู้ฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
- ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
- บัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน
- ลักษณะของผู้ฝึกงานและข้อมูลจากการฝึกงาน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่นๆรวมถึงการบันทึกเวลาเข้าออกงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน
- ข้อมูลอื่นๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ
- กรณีที่ท่านได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงาน เราจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน
ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
เราอาจต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น
- ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ สัญชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
- ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน
ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
การให้ความยินยอมของผู้สมัครและผู้ฝึกงาน
โรงพยาบาลต้องแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีการขอความยินยอมจากท่านเป็นข้อความที่เข้าใจง่าย อ่านง่าย และไม่เข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ
โรงพยาบาลจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ยกเว้นกรณีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ท่านได้รับแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ และได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะนั้น เป็นหนังสือหรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้น จะเข้าข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายอื่นที่ให้อำนาจโรงพยาบาลกระทำได้โดยชอบ
ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
การใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้เท่านั้น ยกเว้นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นๆที่กฎหมายให้อำนาจกระทำได้โดยชอบ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลกำหนดมาตรการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน โรงพยาบาลสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาลมีการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตามความจำเป็น โดยพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ทุกระดับต้องปฏิบัติตามแนวทางการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่โรงพยาบาลกำหนดไว้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและผู้ฝึกงานจะถูกเก็บรักษาและประมวลผลเป็นเวลา 1 ปีนับตั้งแต่โรงพยาบาลได้รับใบสมัครหรือเมื่อการฝึกงานสิ้นสุดลง ในกรณีที่ผู้ฝึกงานถูกดำเนินคดีเนื่องจากทุจริตขณะกำลังฝึกงานอยู่โรงพยาบาลอาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไปจนสิ้นสุดอายุความของคดีนั้น
โรงพยาบาลจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเสียเมื่อใดก็ได้
- สิทธิในการขอเข้าถึง และเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่พนักงานไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับพนักงานเสียเมื่อใดก็ได้
- สิทธิขอให้โรงพยาบาลลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
- สิทธิร้องขอแก้ไขข้อมูลนั้น ให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
- สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีมีการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อโรงพยาบาลเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบฟอร์มที่กำหนด ผ่าน “ช่องทางการติดต่อของโรงพยาบาล” ด้านล่าง โดยโรงพยาบาลจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำร้องฯ ของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ซึ่งโรงพยาบาลอาจปฏิเสธสิทธิของท่านได้ หากมีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้โดยชอบ
ช่องทางการติดต่อโรงพยาบาล
โรงพยาบาลเดอะซีพลัส สมุทรปราการ เลขที่ 8/8 หมู่ที่ 6 ซอย มังกร-ขันดี ตำบล แพรกษา อำเภอ เมืองสมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ 10280 โทรศัพท์ 0-2334-2555 อีเมล์ marketing@thecplus.co.th เว็บไซต์ https://thecplus.co.th/
การเปลี่ยนแปลงนโยบาย
โรงพยาบาลอาจปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเพื่อฝึกงาน และผู้ฝึกงาน ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการดำเนินงานของโรงพยาบาล ทั้งนี้โรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาล โดยนโยบายที่ปรับปรุงแล้วนั้นถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อประกาศ
นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเพื่อฝึกงาน และผู้ฝึกงานฉบับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566